วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Bird Island

Bird Island
Bird Island หรือจะเรียกเป็นไทย ๆ ว่าบ้านเกาะนกก็น่าจะได้ เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก GRAFT เป็นงานออกแบบรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ในชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นั่นเอง โครงการนี้มีดีที่มีเป็นมีการออกแบบแบบยั่งยืนและอนุรักษ์ิสิ่งแวดล้อม ผ่านเกินเกณฑ์มาตรฐาน LEED Platinum จากอเมริกากันเลยทีเดียว

สถาปนิกมีไอเดียที่จะสร้าง Zero Energy House ที่มีประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงาน ให้ลูกค้าไฮโซที่ต้องการบ้านตากอากาศที่หรู ดู ดี แต่ก็ฉลาด แลดูเข้่ากับธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โครงการเป็นรีสอร์ตประกอบด้วยหน่วยพักอาศัยต่าง ๆ 6 หลัง วางแยกจากกัน แต่ก็อยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงกันได้ จะมีหลังคาผ้าขึงปกคลุม หน่วยพักอาศัยทั้งหมด คล้าย ๆ กับงาน House N ที่เคยลงใน ArchThai ก็คือจะเหมือนกับเป็นบ้านในบ้าน อีกทีนึง ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งในแง่ของสเปซที่เบลอร์ระหว่างภายในกับภายนอก เป็นสเปซที่ยืดหยุ่นเพราะว่าใช้บานเฟี้ยม ที่สามารถเปิดโล่งรับธรรมชาติได้เต็ม ๆ นอกจากนี้ยังได้ เกิด air chamber เป็นฉนวนความร้อนได้อีก นอกจากฟังชั่นหลังคาที่กันแดดกันฝนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และมีช่องให้อากาศไหลเวียน




ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ นอกจากหลังคาแล้วก็จะเป็นการเลือกใช้วัสดุ และเทคโนโลยีเป็นส่วนมาก ในแง่ที่ใกล้ตัวสำหรับเราน่าจะเป็นวัสดุ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ Fly-ash ผสมในคอนกรีตโครงสร้างและปูนฉาบ การใช้กระจก Low-E การใช้บล็อคปูถนนที่มีช่องให้หญ้าขึ้นมาได้ การใช้ไม้กลูลามิเนตที่ผลิดจากไม้ชิ้นเล็ก ๆ รวมไปถึงโครงสร้างไม้ไผ่ที่มีอยู่มากตามธรรมชาติแถบนั้น การใช้วัสดุท้องถิ่นให้มากที่สุดดูจะเป็นเรื่องที่สถาปนิกพยายามจะโยงว่าเกี่ยวข้องเพราะว่าประหยัดพลังงานในการขนส่งอีกด้วย ส่วนโครงสร้างเข็มก็ใช้เข็มเดี่ยว ฐานเดี่ยว เพื่อไม่ไปรบกวนหน้าดิน และโครงข่ายรากต้นไม้บริเวณนั้น หลังการก่อสร้างจะมีการปลูกต้นไม้ใหม่ให้เหมือนเดิม


อ้างอิง www.archthai.com

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Beach Pavilion

Beach Pavilion

งาน Beach Pavilion หรือศาลาชายหาดนี้ออกแบบโดยสถาปนิกนิวยอร์ค Moorhead & Moorhead และ Florencia Moralejo ตั้งอยู่ในประเทศอุรุกวัย มันมีพื้นที่ 150 ตารางเมตร เป็นส่วนหนึ่งของบ้านพักอาศัยส่วนตัวริมหาด ที่อยู่บนชายหาดจริง โดยประโยชน์ใช้สอยเป็นส่วนบริการสำหรับเวลาเจ้าของบ้านมาเล่นน้ำ ก็มีครัว มีห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ การออกแบบก็ทำให้ผนังเป็นแบบกึ่งโปร่งกึบทึบโดยใช้แผงระแนงไม้ยูคามาเป็นผนัง โดยมีรูปแบบการเรียงระแนงหลาย ๆ รูปแบบ หลาย ๆ ความถี่ ความหนาแน่น แปรเปลี่ยนไปตามระดับความเป็นส่วนตัวและความต้อง การแสงสว่างและลมธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ใช้สอย แต่ก็ยังมีส่วนบานประตูสไลด์เพิ่มความยื่นหยุ่นในการใช้ประโยชน์อีกด้วยกิ่งไม้ยูคาลิปตัสถูกเลือกก็เพราะความประหยัด และหาง่ายในพื้นที่ก่อสร้างนั่นเอง
อ้างอิง www.archthai.com




วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ประวัติ ดวงฤทธิ์ บุนนาค


ชื่อ : ดวงฤทธิ์ บุนนาค ชื่อเล่น “ด้วง”
วันเกิด : 14 มี.ค. 2509
ครอบครัว : คุณพ่อคือ พิทยาพล บุนนาค (ข้าราชการรัฐวิสาหกิจ) สืบเชื้อสายตระกูลบุนนาคมาจากสายของ
เจ้าพระยาประยูรวงศ์ ปัจจุบัน แต่งงานกับ อัชฌานาท บุนนาค Interior Designer และเป็นผู้บริหารใน IA49 มีลูก 2 คน คน โตเป็นลูกชายชื่อ “น้องนท” อายุ 5 ขวบ และคนเล็กเป็นลูกสาวชื่อ “น้องนีร” อายุ 2 ขวบ
ที่ทำงาน : Siam Tower ชั้น 28
ชื่อ : ดวงฤทธิ์ บุนนาค ชื่อเล่น “ด้วง”
วันเกิด : 14 มี.ค. 2509
ครอบครัว : คุณพ่อคือ พิทยาพล บุนนาค (ข้าราชการรัฐวิสาหกิจ) สืบเชื้อสายตระกูลบุนนาคมาจากสายของ
เจ้าพระยาประยูรวงศ์ ปัจจุบัน แต่งงานกับ อัชฌานาท บุนนาค Interior Designer และเป็นผู้บริหารใน IA49 มีลูก 2 คน คน โตเป็นลูกชายชื่อ “น้องนท” อายุ 5 ขวบ และคนเล็กเป็นลูกสาวชื่อ “น้องนีร” อายุ 2 ขวบ
ที่ทำงาน : Siam Tower ชั้น 28
การศึกษา :
ประถม-มัธยมศึกษา : สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาตรี : เกียรตินิยม สถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ (พ.ศ. 2532)
ปริญญาโท : สถาปัตยกรรมศาสตร์ (Graduate Diploma in Design) จาก Architectural Association (AA), London, UK
ประสบการณ์ :
ปัจจุบัน : กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด (ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2541 เริ่มจากเป็น หจก. ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิก แล้วเปลี่ยนเป็น บจก. ในปี พ.ศ. 2544)
เจ้าของร้าน anyroom ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ (ขายเฟอร์นิเจอร์นำเข้า กำลังจะส่งออก และกำลังจะมีสาขาในต่างประเทศ เร็วๆ นี้)
2538-2541 : สถาปนิกอาวุโส บริษัท สถาปนิก 49 (A49) จำกัด
ผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรม :
2547 : โครงการบูติกมอลล์ H1 ทองหล่อ
2544 : Costa Lanta โรงแรมบูติก (boutique hotel) ที่กระบี่ ได้รับรางวัล the Best 50 New Hotels in the World จากนิตยสาร Conde Nast Traveler (UK Edition) ฉบับ May 2004
2541 : อาคารสำนักงานโรงกลั่นน้ำมัน เอสโซ่ และอาคารรักษาความปลอดภัยภายในโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา
2539 : อาคารศูนย์กีฬา หมู่บ้านและสนามกอล์ฟ ปัญญาปาร์ค กรุงเทพฯ
2538 : อาคารสำนักงานพิพัฒนสิน กรุงเทพฯ, อาคารคอนโดเฮาส์ โนเบิลพาร์ค สมุทรปราการ
ภายหลังการเปิดตัว H1 บูติกมอลล์ (Boutique Mall) ย่านทองหล่อเพียงไม่นาน ทั้งชื่อโครงการ ชื่อเจ้าของโครงการ ชื่อดีไซเนอร์ และชื่อของสถาปนิก ก็พากันโชว์หราอยู่บนหน้าหนังสือออกแบบเกือบทุกเล่ม ด้วยความแรงของสถาปัตยกรรมและการตกแต่ง ทุกร้านในโครงการก็พากันพาเหรดเปิดตัวตามนิตยสาร Lifestyle ต่างๆ เครดิตส่วนหนึ่งคงต้องยกให้กับสถาปนิกผู้ออกแบบตัวตึกภายนอก ได้แก่ ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกที่กำลังฮอตที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้

นอกจาก H1 เขายังเป็นผู้ออกแบบอีกหลายโครงการ โดยหนึ่งในนั้นคือ Costa Lanta หนึ่งในสมาชิกของ Design Hotel TM ซึ่งถือเป็น HIP resort ที่ฉีกตำราสถาปัตยกรรมรีสอร์ตแบบเดิมกระจุย (อ่านรายละเอียดใน Insight เรื่อง Design Hotel TM)

หลักการออกแบบของผมก็คือ ทำในสิ่งที่เชื่อ ผมเชื่อในความจริง และเชื่อในความคิด ผมคิดว่าสถาปัตยกรรมควรจะมีช่วงเวลาของมัน เรามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาปัจจุบัน เราก็ทำงานออกมาในช่วงเวลาปัจจุบัน ก็ควรเป็นงานที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่บ่งบอกช่วงเวลาที่เราทำก็คือช่วงปัจจุบัน” นี่เป็นบทสรุปคอนเซ็ปต์การออกแบบของดวงฤทธิ์ที่ตรงที่สุด อันดูได้จากผลงานสถาปัตยกรรมของ H1 และ Costa Lanta

วิธีคิดในการออกแบบ H1 ดวงฤทธิ์เริ่มต้นจากคำตอบที่ว่า สถาปัตยกรรมจะต้องเชื่อมโยงภายในและภายนอกของตัวตึกเข้าด้วยกัน ขณะที่ตัวอาคารเปรียบเสมือนกรอบ (รูป) ใส ซึ่งทำให้เห็นดีไซน์ภายใน (Interior design) สถาปัตยกรรมเองก็ต้องสร้างความสมดุลระหว่างความเปิดกับความปิด โดยที่ความสมดุลในการเปิดปิดตรงนี้ ต้องเริ่มจากใจของสถาปนิกเองก่อน
หลักการออกแบบของผมก็คือ ทำในสิ่งที่เชื่อ ผมเชื่อในความจริง และเชื่อในความคิด ผมคิดว่าสถาปัตยกรรมควรจะมีช่วงเวลาของมัน เรามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาปัจจุบัน เราก็ทำงานออกมาในช่วงเวลาปัจจุบัน ก็ควรเป็นงานที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่บ่งบอกช่วงเวลาที่เราทำก็คือช่วงปัจจุบัน” นี่เป็นบทสรุปคอนเซ็ปต์การออกแบบของดวงฤทธิ์ที่ตรงที่สุด อันดูได้จากผลงานสถาปัตยกรรมของ H1 และ Costa Lanta

วิธีคิดในการออกแบบ H1 ดวงฤทธิ์เริ่มต้นจากคำตอบที่ว่า สถาปัตยกรรมจะต้องเชื่อมโยงภายในและภายนอกของตัวตึกเข้าด้วยกัน ขณะที่ตัวอาคารเปรียบเสมือนกรอบ (รูป) ใส ซึ่งทำให้เห็นดีไซน์ภายใน (Interior design) สถาปัตยกรรมเองก็ต้องสร้างความสมดุลระหว่างความเปิดกับความปิด โดยที่ความสมดุลในการเปิดปิดตรงนี้ ต้องเริ่มจากใจของสถาปนิกเองก่อน

“เราไม่รู้มาก่อนนะว่าใครจะมาทำ Interior แต่ละร้าน เพราะเป็นพื้นที่เช่า ฉะนั้นเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งก็ต้องเปิดใจให้กว้างและยอมรับว่าเราจะปล่อยให้เห็น interior ตรงไหนบ้าง ก็ต้องให้เครดิตคุณวิฑูรย์ (วิฑูรย์ คุณาลังการ จากบริษัท IAW) เพราะเขาออกแบบภายในเกือบทุกร้าน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ architecture ดูดี เพราะถ้าดีไซน์ข้างในหมอง ตึกข้างนอกก็หมองไปด้วยเหมือนกัน”

ส่วนคำตอบของความดูหรูหราของโครงการ ดวงฤทธิ์บอกว่า ไม่ได้มาจากส่วนประกอบ (element) ที่ใช้ตกแต่งเพียงอย่างเดียว แต่มาจากสเกล (scale) และสัดส่วน (proportion) ของตัวตึกที่มีความสูงถึง 3.8 เมตร ซึ่งทำให้เกิดพื้นที่ว่าง (space) และการเล่นกับ Interior space และ exterior space จะทำให้มุมมองข้างนอกของแต่ละข้างในไม่เหมือนกัน นั่นก็คือความหรูหราที่คนทั่วไปสัมผัสได้โดยไม่ต้องเข้าใจถึงหลักสถาปัตยกรรม

สำหรับวิธีคิดในการออกแบบ Costa Lanta ดวงฤทธิ์เริ่มต้นจากคำถาม “ทำไมรีสอร์ตในเมืองไทยต้องเป็นสไตล์บาหลี หรือทำไมต้องมีหน้าจั่ว ดูหน้าตาเป็นไทยทุกอัน” เมื่อเขาตอบตัวเองไม่ได้ เขาจึงลองทำตามความเชื่อในเรื่อง “ปัจจุบัน” บวกกับความเรียบง่ายที่ฝังรากในความชอบของเขา สิ่งที่ได้คือ ความกลมกลืนระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กับความนุ่มนวลของธรรมชาติ “สิ่งที่ผมเคารพมากที่สุดก็คือ natural context ของสถานที่ ผมจึงพยายามทำให้ตึกหายไปและเก็บธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด”

ดวงฤทธิ์ย้ำว่า ทั้ง 2 โครงการนี้ รวมถึงโครงการอื่นๆ ของเขา ไม่ใช่สไตล์ minimal ทั้งนี้เพราะเขาไม่เคยคิดแบบ minimalist ที่เน้น “องค์ประกอบที่น้อยที่สุด” แต่แนวคิดของเขาคือ “องค์ประกอบเท่าที่จำเป็น” หรือก็คือ ทางสายกลางตามแนวพุทธ “ผมคิดว่าการมีชีวิตแบบ minimalist มันน้อยเกินไปก็จะอยู่ลำบาก ของผมจะเน้นที่อยู่สบาย ไม่เพิ่มมากกว่านี้ และก็ไม่ตัดทอนให้มันอัตคัด คือรู้ว่าถ้ามันพอดีแล้วก็ต้องพอ” ดังนั้นดวงฤทธิ์จึงเชื่อว่างานของตัวเองค่อนไปทางแนว simplicity มากกว่า

นอกจากนี้ โครงการทั้ง 2 แห่งยังมีความคล้ายคลึงอีกประการคือ ความพยายามในการรักษาสภาพต้นไม้ภายในโครงการไว้เป็นอย่างดี ดวงฤทธิ์ใช้วิธีวางคานอ้อมต้นไม้และกลายเป็นสถานที่นั่งเล่นอันแสนสบายที่ H1 และเขาเลี่ยงการตัดต้นสน จนเกิดสระว่ายน้ำกลางร่มสนที่ Costa Lanta โดยเขาให้ข้อคิดเกี่ยวกับแรงกดดัน ที่หลายคนอาจถือเป็นอุปสรรคไว้อย่างสนใจว่า …